“จิตวิญญาณความเป็นครู ไม่เลือนหาย” แว่วเสียงจากปลายสาย หญิงสาววัยกลางคนทีมีน้ำเสียงใสน่าฟัง และรู้สึกถึงว่าเธอกำลังพูดเปื้อนยิ้ม เธอแนะนำตัวอีกครั้งว่า ชื่อ รุ่งนภา ชื่อเล่น ชื่อรุ่ง อายุ 26 ปี รุ่งเล่าว่าห้าปีก่อนเธอเป็นผู้หญิงที่มีชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไปและอยู่ในรั้วของมหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อร่ำเรียนในสาขาครูปฐมวัย อาชีพที่เธอฝันว่าจบมาเธอจะเป็นหนึ่งกำลังสนับสนุนให้การศึกษาของเด็กปฐมวัยในชุมชนของเธอมีคุณภาพได้ หากแต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอประสบอุบัติเหตุทำให้สูญเสียการมองเห็น(ตาบอด) นั่นแปลว่าวิถีปกติและสิ่งที่เธอกำลังจะเดินก้าวไปต่อ เป็นอันต้องชะงัก โลกไม่เคยใจร้าย กับจิตใจที่ไม่เคยท้อถอย ทำให้เธอลุกขึ้นสู่ด้วยการไปฝึกอาชีพกับมูลนิธิพิทักษ์ดวงตา หลักสูตรเรียนรู้อักษรเบลล์ ใช้คอมพิวเตอร์ในระบบเสียงหรือตาทิพย์ แม้เธอจะเคยมีทุนเดิมจากการได้เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยในเรื่องการเรียนการสอน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะสิ่งที่เธอเรียนในห้องเรียนมันต่างจากสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอย่างสิ้นเชิง อุปสรรคยอมแพ้ต่อความมานะพยายามของเธอ ที่จะยอมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและเรียนรู้กับวิชาใหม่ๆที่จะทำให้เธอได้ยังคงความฝันได้ เธอยังสามารถสานต่อความฝันในการเป็นครูได้อย่างที่เธอต้องการ แน่นอนว่าเส้นทางของความฝันของเธอในการสร้างคนไม่เคยถูกละทิ้งและมีคุณค่าที่จะทำให้ใครๆก็เข้าใจและพร้อมจะเป็นกำลังใจให้กับเธอ ครูปุ๋ย ครูและแม่ใหญ่แห่งมูลนิธิพิทักษ์ดวงตา ไม่ละเลยหรือมองข้ามความฝันหรือความพยายามของเธอ จึงบอกเล่าให้มูลนิธินวัตกรรมทางสังคมได้รับทราบเรื่องราวของเธอ แน่นอนว่า เมื่อมูลนิธิฯได้รับรู้ เราจึงเชื่อมประสานให้เกิดการจ้างงานจากบริษัทไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ซึ่งนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าเธอมีความั่นคงในชีวิต มีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ ท้ายสุดเธอฝากให้เรามาบอกว่า “ขอบคุณสำหรับโอกาสที่มีให้เธอ ขอบคุณไมเนอร์ ขอบคุณมูลนิธิ” (เสียงยิ้ม)